วันที่ 05 กันยายน 2567 (ฺ–/L/D)

• 21.00 น. พบกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมทีมงานคอยอำนวยความ
• 00.50 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานนานาชาติโบเลอาดดิสอาบาบา(ADD) โดยสายการบิน Ethiopian Airlines เที่ยวบินที่ ET629 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 10นาที)
• 06.30 น. ถึงท่าอากาศยานนานาชาติโบเลอาดดิสอาบาบา(ADD) และต่อเครื่องไปยังท่าอากาศยานนานาชาติโฮเซีย คุทาโก (WDH) โดยสายการบิน  Ethiopian Airlines เที่ยวบินที่ ET835 (ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 45 นาที)
• 09.55 น. เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติโฮเซีย คุทาโก (WDH)
• นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และทีมงานจัดการเรื่องรถเช่า
• พาทุกท่านรับประทานอาหารกลางวันบริเวณใกล้ๆสนามบิน
• ออกเดินทางพาทุกท่านไปยัง Etosha national park อุทยานแห่งชาติทางตอนเหนือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศนามีเบีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4ชั่วโมง 50นาที )
• เดินทางถึงที่พัก และ เช็คอินเข้าที่พักพร้อมพักผ่อนตามอัธยาศัย (พักข้างในอุทยาน)
• รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารโรงแรม

พักที่ Okaukuejo Resort หรือเทียบเท่า

วันที่ 06 กันยายน 2567 (ฺ–/L/D)

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม
• ถ่ายภาพบริเวณรอบๆโรงแรม และให้ทุกท่านเตรียมตัวไปทำกิจกรรม
• เริ่มโปรแกรม เที่ยวชมสัตว์ในอุทยาน Etosha national park หนึ่งในสถานที่ชมสัตว์ป่าที่ดีที่สุด โดยเราจะมีกิจกรรม Game Drive Big 5 Safari เป็นเกมที่จะค้นหาสัตว์ป่า เช่น สิงโต ช้าง เสือดาว แรด ควายป่า ไฮยีน่า ยีราฟ เป็นต้น ให้ทุกท่านส่องสัตว์ และชื่นชมธรรมชาติได้โดยรอบ เพราะเราจะใช้รถแบบ Safari ในการเที่ยวชมอุทยาน
• โดยครึ่งเช้าจะพาชม ภายในอุทยาน เช่น แคมป์ฮาลาลี อยู่ใจกลางอุทยาน ระหว่างทางจะมีบ่อน้ำ ที่มีทั่วอุทยาน เป็นจุดที่ดีที่สุดที่มีโอกาสเห็นสัตว์ต่างๆ มากกว่าสถานที่อื่นๆ
• รับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง
• ครึ่งบ่ายจะพาทำกิจกรรม Game Drive Big 5 Safari ต่อ เป็นเกมที่จะค้นหาสัตว์ป่า เช่น สิงโต ช้าง เสือดาว แรด ควายป่า ไฮยีน่า ยีราฟ เป็นต้น
• เสร็จสิ้นกิจกรรม และถ่ายแสงเย็นกันที่มุมไฮไลท์ของอุทยาน
• กลับเข้าที่พัก และรับประทานอาหารเย็น

วันที่ 07 กันยายน 2567 (ฺB/L/D)

• รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม และเช็คเอาท์
• ออกเดินทางไปยัง Spitzkoppe เป็นสถานที่ไฮไลท์ ของ Namibia ซึ่งมีเนินหินแกรนิตที่ปกคลุมไปด้วยทราย สถาปัตยกรรมทางธรรมชาติที่มีอายุมากกว่า 120 ปี(ใช้เวลาประมาณ 4ชั่วโมง 40นาที)
• แวะพักรับประทานอาหารกลางวัน
• เช็คอินเข้าที่พัก และพักผ่อนกันซักครู่หนึ่ง
• ถ่ายแสงเย็นที่มุมไฮไลท์ของ Spitzkoppe
• ในช่วงกลางคืนเราจะพาทุกท่านออกมาถ่ายภาพที่จุดไฮไลท์กันอีกรอบ ซึ่งที่นี่เราจะสามารถเห็นทางช้างเผือกได้อีกด้วย

วันที่ 08 กันยายน 2567 (B/L/–)

• ถ่ายแสงเช้าที่ Spitzkoppe
• รับประทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์
• ออกเดินทางไปยัง Cape cross ไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติภายในเขตอนุรักษ์ของแมวน้ำสายพันธ์ Cape Fur Seal ที่หนาแน่นที่สุดในโลก (ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมง 20นาที)
• พาท่านแวะ Supermarket ระหว่างทาง
• แวะรับประทานอาหารที่ Swakopmund 
• พาทุกท่านไปยัง Sandwich Harbour อ่าวแซนวิช เนินทรายขนาดใหญ่ที่ก่อตัวกลายสภาพดูเหมือนภูเขาที่ตั้งอยู่ริมฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติค หนึ่งในความมหัศจรรย์ของที่นี่ เราจะพาทุกท่านไปทำกิจกรรมสุด adventure กันที่นี่ (ใช้เวลาเดินทางประมาณ30นาที)
• 13.00 น. เริ่มกิจกรรม Sandwich Harbour 4×4 นำทุกท่านขับรถ 4WD ตะลุยไปบนเนินทรายอันมโหฬารแห่งนี้ พร้อมกับถ่ายรูปวิวแบบ 360องศาสวยๆกันได้ที่นี่

วันที่ 09 กันยายน 2567 (B/L/D)

• เดินทางไปถ่ายรูปแสงเช้าที่ Walvis Bay Lagoon ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของนก Flamingo และยังมีนกสายพันธุ์อื่นๆให้ทุกท่านได้ชมความน่ารักพร้อมถ่ายรูปอีกด้วย
• กลับมารับประทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์
• ออกเดินทางไปยังเมือง Solitaire (ใช้เวลาประมาณ 3ชั่วโมง 15นาที)
• แวะพักรับประทานอาหารเที่ยง
• ออกเดินทางไปอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ ซึ่งก็คือ อุทยาน Sossusvlei มีลักษณะเป็นกระทะเกลือและดินเหนียวที่ล้อมรอบด้วยเนินทรายสีแดงสูงตั้งอยู่ทางตอนใต้ของทะเลทราย Namibia  (ใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมง 50นาที)
• ไปถ่ายแสงเย็นกันในอุทยาน และ DUNE ต่างๆ หากทันจะไปถ่ายที่ DUNE45
• เช็คอินเข้าที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 10 กันยายน 2567 (B/L/D)

• ถ่ายแสงเช้าที่ DeadVlei ต้นไม่แห่งความตาย 
• กลับมารับประทานอาหารเช้า
• เดินทางไปถ่ายแสงเย็นกันที่ DUNE45 เป็นเนินที่ลาดเอียงลง เกิดจากพายุทรายพัด ในตรงนี้เราจะเดินเท้าขึ้นไปกันเล็กน้อย

วันที่ 11 กันยายน 2567 (B/L/–)

• ถ่ายแสงเช้าบริเวณรอบๆที่พัก
• รับประทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์
• ออกเดินทางไปยัง เมือง Kolmanskop (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง)
• แวะพักรับประทานอาหารเที่ยง
• เดินทางต่อไปยังเมือง Luderitz โดยเราจะแวะถ่าย Sunset ระหว่างทาง (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมง 40นาที)
• รับประทานอาหารเย็น
• เช็คอินเข้าที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย

พักที่ Luderitz Nest Hotel หรือเทียบเท่า

วันที่ 12 กันยายน 2567 (B/L/D)

• รับประทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์
• ออกเดินทางไปถ่ายแสงเช้าที่ Kolmanskop เป็นสถาปัตยกรรมกลางผืนทะเลทราย Namibia ภายในตัวอาคารทุกหลัง ก็ถูกอัดแน่นไปด้วยเนินทรายซึ่งถูกลมพัดมาทับถมสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นเวลานานกว่าหนึ่งร้อยปี เมืองแห่งนี้ร้างผู้คน และถูกทิ้งไว้เนิ่นนาน ผู้คนจึงเรียกว่าเมืองผี(ใช้เวลาประมาณ 14 นาที)
• เดินทางต่อไปยังเมือง Keetmanshoop (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3ชั่วโมง 20นาที)
• แวะพักรับประทานอาหารเที่ยงระหว่างทาง
• เช็คอินเข้าที่พัก และพักผ่อนตามอัธยาศัย
• ช่วงเย็นพาทุกท่านออกเดินทางไปถ่ายแสงเย็นที่ Quiver Tree Forest ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ Aloe dichotoma พันธุ์ไม้พื้นเมืองของแอฟริกาใต้และนามิเบียเป็นต้นไม้ที่มีรูปทรงสวยงามและมีขนาดสูงใหญ่และทางช้างเผือกที่ใครๆก็อยากจะลองเจอสักครั้ง

Dramatic sunset over Quiver Tree Forest in the Namibia.