TourPlan

17 – 25 ตุลาคม 2567 // 22 - 30 ตุลาคมม 2567

17 – 25 ตุลาคม 2567 // 22 - 30 ตุลาคมม 2567

COUNTRIES

MEALS

ราคา (THB)

116900

*Prices per person, based on double occupancy for 16 August 2024 departure

Highlights

Day 0: Suvarnabhumi Airport

16 ตุลาคม 2567

  • 23.00 น. พบกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมทีมงานคอยอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
Day 1: Bangkok ✈ Dubai ✈ Venice Marco Polo - Ortisei

17 ตุลาคม 2567 (– // — // –)

  • 03.30 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) ประเทศไทย มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ(DXB) ประเทศดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK371 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 20 นาที)
  • 06.50 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ และรอต่อเครื่องไปท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โค  โปโล (VCE) (ใช้เวลาต่อเครื่อง 2 ชั่วโมง 15 นาที)
  • 09.05 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK135 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 20 นาที)
  • 13.25 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล ประเทศอิตาลี  นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และทีมงานจัดการเรื่องการรับรถเช่า
  • จากนั้น นำท่านแวะซื้อของที่ supermarket ในเวนิสเพื่อทานอาหารรองท้อง และเข้าที่พักเมือง Ortisei (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)
  • ถ่ายภาพแสงเย็นที่ Lake Carezza

ที่พัก Smart Hotel Saslong หรือเทียบเท่า (2คืน)

Lake Carezza
  • ทะเลสาบอัลไพน์ขนาดเล็กที่มีน้ำสีเขียวมรกตและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขา Latemar เป็นฉากหลัง ตั้งอยู่สูง 1,520 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีความกว้างประมาณ 140 เมตร ยาว 300 เมตร น้ำในทะเลสาบมีความลึกตั้งเเต่ 6-22 เมตร ได้รับฉายาจากนักท่องเที่ยวว่า “Rainbow Lake” และ “Fairytale Lake of the Dolomites

Day 2: Alpe Di Siusi - Seceda Peak - Val Di Funes

18 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • นำท่านถ่ายภาพแสงเช้าซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ที่ Alpe Di Siusi จุดชมวิวยอดเขาที่เมื่อขึ้นไปแล้วจะเห็นวิวจะมองเห็นท้องทุ่งหญ้าที่เป็นเนินสูงๆต่ำๆไปจนถึงกลุ่มยอดเขาที่เห็นโดดเด่นอยู่เบื้องหน้า ซึ่งเป็นภาพวิวที่ทำให้ใครหลายคนประทับใจ
  • รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
  • ขึ้นกระเช้าชม Seceda Peak ภูเขารูปทรงเอกลักษณ์ที่สวยอีกจุดหนึ่ง และถ่ายภาพตามจุดไฮไลท์ต่างๆ (เดิน 30 นาที –  1 ชั่วโมง)
  • รับประทานอาหารเที่ยง และเดินเล่นชมเมืองตามอัธยาศัย
  • ถ่ายภาพแสงเย็นที่มุมมหาชน Santa Maddalena Church view point ที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน Santa Maddalena อยู่บนหุบเขา Val Di Funes โดยเราจะใช้เวลา เดินขึ้นไปจุดชมวิว 30-40 นาที ระยะทางราวๆ 1.5 กิโลเมตร
  • เข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารเย็น
Alpe Di Siusi
  • ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมือง Ortisei ลักษณะเป็นที่ราบสูงเเบบอัลไพน์ มีความสูงตั้งเเต่1,680 – 2,350 เมตร ทอดตัวยาวเหยียดถึง 52 กิโลเมตร จัดได้ว่าเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังมีสถานีกระเช้า Alpe di Siusi ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองในระยะทางเดินเพียงไม่กี่นาที
Seceda Peak
  • ยอดเขาที่โดดเด่นตั้งอยู่ในเทือกเขา Dolomites โดยมีความสูงถึง 3,025 เมตร (9,921 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล ทำให้เป็นหนึ่งในยอดเขาที่สูงที่สุดใน Dolomites เป็นที่รู้จักจากรูปลักษณ์ที่โดดเด่น ด้วยกำแพงหินสูงชัน ยอดแหลม ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของภูเขาโดโลไมต์ ยอดเขาประกอบด้วยหินโดโลไมต์ ซึ่งให้สีสันที่เป็นเอกลักษณ์และลักษณะที่แข็งแรงทนทาน

Day 3: St. Jakobs Kirche - Cortina D'Ampezzo

19 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • นำท่านถ่ายภาพแสงเช้าที่ St.-Jakobs-Kirche จุดชมวิวของเมือง Ortisei จุดนี้เราจะเดินขึ้นไปกันเล็กน้อยประมาณ 1.5 – 2 กิโล โดยประมาณ 30 นาที
  • รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม และมุ่งหน้าสู่ Cortina D’Ampezzo (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1ชั่วโมง 30 นาที) พาท่านเที่ยวชมและถ่ายภาพไฮไลท์ต่างๆโดยรอบโซนนี้ เช่น Passo Gardena, Passo Sella, Passo Prodoi (ทุก Passo จะต้องเดินขึ้นเขาไปยังจุดชมวิว ระยะทางไม่ไกล แต่ค่อนข้างชัน)
  • รับประทานอาหารเที่ยงในเมือง Cortina d’Ampezzo และเดินเล่นตามอัธยาศัย
  • ถ่ายภาพแสงเย็นที่ Lake Misurina และเข้าที่พัก

ที่พัก Franceschi park hotel หรือเทียบเท่า (3คืน)

Day 4: Lake Braies - Lake Antorno - Lago di Dobbiaco

20 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • นำท่านถ่ายภาพแสงเช้ามุมไฮไลท์ที่ Lake Braies และรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
  • ออกเดินทางไป Lake Antorno ทะเลสาบขนาดเล็กที่มีทัศนียภาพอันโดดเด่น
  • ออกเดินทางต่อไปยัง Lago di Dobbiaco ทะเลสาบดอบบิเอโค เป็นทะเลสาบขนาดเล็กสวยงามแห่งหนึ่งในแถบโดโลไมท์ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าทึบ  น้ำสีเขียวอ่อน   (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 25นาที )
  • ถ่ายภาพแสงเย็นที่ Passo Giau อีกจุดชมวิวที่สวยงามมีภูเขารูปทรงปิรามิดที่ชื่อว่า Ra Gusela โดยจุดเด่นของมุมนี้คือการถ่ายรูปภาพภูเขาสะท้อนน้ำ
  • เข้าสู่ที่พัก และรับประทานอาหารเย็น
Lake Braies
  • ทะเลสาบที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่มุกแห่งโดโลไมต์ ตั้งอยู่ในหุบเขาโดโลไมต์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลี ทะเลสาบแห่งนี้มีสีเขียวมรกตและน้ำที่ใส รายล้อมไปด้วยพืชพันธุ์เขียวชอุ่มและต้นสนที่อุดมสมบูรณ์ โดยมีภูเขาโดโลไมต์เป็นฉากหลังสะท้อนกับผืนน้ำ จึงทำให้สถานที่แห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ

Day 5: Tre Cime di Lavaredo

21 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
  • พาท่านเดิน trekking เส้นทาง Tre Cime di Lavaredo loop trail ยอดเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในแถบ Dolomite และถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่แห่งนี้
  • จุด start เราจะเริ่มเดินจาก Rifugio Auronzo โดยจะใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 5-6 ชั่วโมง ไป-กลับ ระยะทางราวๆ 10 กิโลเมตร
  • เดินทางกลับที่พัก และรับประทานอาหารเย็น

Day 6: Venice

22 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • หลังจากทานมื้อเช้า ออกเดินทางไปที่ Venice (ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงครึ่ง)
  • ทานมื้อเที่ยงใกล้สนามบิน Venice จากนั้นสต๊าฟใช้เวลาคืนรถเช่าที่สนามบิน ประมาณ 1 ชั่วโมง และจะส่งลูกค้าที่ coffee shop ตรงท่าเรือ
  • 14.00 น. พาท่านขึ้นเรือ private speed boat ไปเกาะ Venice เพื่อเข้าสู่ที่พัก
  • ถ่ายภาพแสงเย็น นั่งเรือ Gondola จุดเด่นของเมืองเวนิสที่ไม่ควรพลาด
  • รับประทานอาหารเย็น

ที่พัก Hotel Colombina หรือเทียบเท่า (2คืน)

Gondola
  • เรือกอนโดลาเป็นเรือที่ยาวและแคบซึ่งมักทาสีดำและมีการออกแบบที่โดดเด่น โดยจะมีฝีพายคนเดียวหรือที่เรียกว่าคนแจวเรือยืนอยู่ท้ายเรือ เดิมทีเรือกอนโดลาถูกใช้เป็นเรือลำเลียงสินค้าเมื่อคราวที่ผู้คนอพยพมาตั้งถิ่นฐานในสมัยก่อนแต่ปัจจุบันได้ถูกใช้เที่ยวชมสถานที่เพื่อการท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ความสวยงามของเมืองเวนิส

Day 7: Burano - Venice

23 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • ถ่ายภาพแสงเช้าที่ Rialto Bridge และรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม
  • นำท่านขึ้น Private Speed boat ไปเกาะ Burano เกาะแห่งสีสันที่มีความโดดเด่นกับบ้านชาวประมงสีสดใส (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที) และทานมื้อเที่ยงที่เกาะ
  • ช่วงบ่ายนำท่านกลับสู่ Venice ให้ท่านได้อิสระเดินเล่น ชมความสวยงามของเมืองเวนิสได้ตามอัธยาศัย และรับประทานอาหารเย็น
Burano
  • เกาะใน Venetian Lagoon ทางตอนเหนือของอิตาลี เป็นเกาะที่ที่สวยงามและเป็นที่รู้จักในการขายสินค้าและการผลิตงานลูกไม้ รวมถึงบ้านเมืองประมงที่มีสีสันสดใส โดยตามความเชื่อได้เล่าว่าบ้านถูกทาสีด้วยสีต่างๆ ก็เพื่อให้ชาวประมงสามารถระบุบ้านของตนได้ง่ายขณะออกทะเล

 

Day 8: Venice Marco Polo ✈ Dubai

24 ตุลาคม 2567 (B // — // –)

  • รับประทานอาหารเช้า และเช็คเอาท์
  • 12.00 น. เตรียมตัวออกเดินทางไป ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล เพื่อเช็คอินสัมภาระ และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
  • 15.35 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล(VCE) ประเทศอิตาลี มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ(DXB) โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK136 (ใช้เวลาเดินทาง 5 ชั่วโมง 45 นาที)
  • 23.20 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ และรอต่อเครื่องไปท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ (ใช้เวลาต่อเครื่อง 3 ชั่วโมง 30 นาที)

10 Day 9: Dubai ✈ Suvarnabhumi Airport

25 ตุลาคม 2567 

  • 02.50 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK384 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 40 นาที)
  • 12.30 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ

FLIGHTS DETAILS

03.30 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) ประเทศไทย มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ(DXB) ประเทศดูไบ โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK371 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 20 นาที) 06.50 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ และรอต่อเครื่องไปท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โค โปโล (VCE) (ใช้เวลาต่อเครื่อง 2 ชั่วโมง 15 นาที) 09.05 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล โดยสายการบิน Emirates เที่ยวบินที่ EK135 (ใช้เวลาเดินทาง 6 ชั่วโมง 20 นาที) 13.25 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเวนิสมาร์โคโปโล ประเทศอิตาลี นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และทีมงานจัดการเรื่องการรับรถเช่า จากนั้น นำท่านแวะซื้อของที่ supermarket ในเวนิสเพื่อทานอาหารรองท้อง และเข้าที่พักเมือง Ortisei (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง)

Gallery