2025 Aurora Trails in Iceland 10-19 October

9 ตุลาคม 2568

• 20.30 น. พบกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) พร้อมทีมงานคอยอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน

10 ตุลาคม 2568 (-- // -- // --)

• 00.50 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (CPH) โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG950 (ใช้เวลาเดินทาง 11 ชม. 50 นาที)
• 07.40 น.ถึง ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (CPH) ผ่านด่านและรับกระเป๋า เช็คอิน พร้อมต่อเครื่องไป Reykjavik
• 12.35 น. มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก(KEF) โดยสายการบิน Fly Play เที่ยวบินที่ OG901 (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. 20 นาที)
• 13.55 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก (KEF) ประเทศไอซ์แลนด์
• รับรถเช่า และมุ่งหน้าเข้าสู่เมือง Reykjavik เยี่ยมชมและถ่ายภาพสถานที่สำคัญกับ โบสถ์ Hallgrímskirkja โบสถ์สไตล์โมเดิร์น โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมคล้ายแท่งลาวา
• มุ่งหน้าสู่ Grundarfjörður (ประมาณ 3 ชม.)
• หากสภาพอากาศดีเราจะออกล่าแสงเหนือกันคืนนี้เลย!

 

ที่พัก Kirkjufell Guesthouse and Apartments หรือเทียบเท่า

 

11 ตุลาคม 2568 (-- // -- // --)

• ออกเดินทางจากเมือง Skogar มุ่งหน้าสู่คาบสมุทร Snæfellsnes Peninsula
• เดินทางต่อไปยังโบสถ์ดำ Búðakirkja เกิดจากการทาสีน้ำมันดินเพื่อป้องกันสภาพอากาศรุนแรง
• ชมวิวชายฝั่งที่ Arnarstapi ท่าเรือที่สำคัญในอดีต
• สำรวจกลุ่มหินรูปร่างแปลกตา Londrangar ที่ตั้งตระหง่านกลางทะเล
• รับประทานอาหารกลางวัน
• ชมวิวของธารน้ำแข็ง Snæfellsjokull ภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยหิมะตลอดปี
• ชมโบสถ์ Ingjaldshólskirkja โบสถ์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา พร้อมวิวรอบทิศทาง
• รับประทานอาหารเย็น
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก Kirkjufell Guesthouse and Apartments หรือเทียบเท่า

---

Snæfellsnes Peninsula

คาบสมุทรที่ได้ชื่อว่าเป็น "ไอซ์แลนด์ย่อส่วน" เนื่องจากรวมทุกสิ่งที่ไอซ์แลนด์มี ไม่ว่าจะเป็น ภูเขาไฟ ธารน้ำแข็งหาดทรายดำ หน้าผา และหมู่บ้านชาวประมง

 

---

Búðakirkja

โบสถ์ไม้สีดำอันโดดเด่น โบสถ์นี้ขึ้นชื่อเรื่องสถาปัตยกรรมเรียบง่าย และโดดเด่นด้วยสีดำทั้งหลังตัดกับทิวทัศน์ภูเขาและทุ่งลาวาโดยรอบอย่างงดงาม

---

Arnarstapi หมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ขึ้นชื่อเรื่องทิวทัศน์หน้าผาหินบะซอลต์อันโดดเด่นที่ถูกกัดเซาะโดยคลื่นทะเลเป็นเวลานาน ทำให้เกิดโขดหินรูปร่างแปลกตาและสะพานหินธรรมชาติ

---

Londrangar หอคอยหินบะซอลต์ธรรมชาติ เป็นซากปล่องภูเขาไฟโบราณที่ถูกกัดเซาะโดยคลื่นทะเลและลมแรงเป็นเวลาหลายพันปีทำให้เหลือเพียงแท่งหินสูงเสียดฟ้า โดดเด่นด้วยหินสองยอดมีความสูงถึง 75 เมตร และ 61 เมตร ยืนตระหง่านริมชายฝั่ง

---

Snæfellsjokull ภูเขาไฟที่ปกคลุมด้วยธารน้ำแข็ง มีความสูงประมาณ 1,446 เมตร โดดเด่นด้วยยอดเขาที่ปกคลุมด้วยน้ำแข็งตลอดทั้งปีถือเป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุด เนื่องจากเป็นแรงบันดาลใจในนวนิยายคลาสสิก "Journey to the Center of the Earth" และยังถูกเชื่อมโยงกับตำนานเกี่ยวกับพลังงานลี้ลับ

---

Ingjaldshólskirkja โบสถ์ไม้สีขาวหลังคาแดง โดดเด่นด้วยวิวภูเขา Snæfellsjökull ที่ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหลัง บรรยากาศเงียบสงบ ถูกสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถือเป็นโบสถ์ไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์

12 ตุลาคม 2568 (-- // -- // --)

• ถ่ายภาพแสงเช้าที่ Kirkjufell (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ)
• ออกเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติ Þingvellir
  • ห่างจากเรคยาวิกประมาณ 40 กม.
  • อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์
  • ชมรอยแยกของเปลือกโลกระหว่างทวีปอเมริกาเหนือและยุโรป
• รับประทานอาหารกลางวัน
• แวะชมจุดน่าสนใจต่างๆ ระหว่างทาง
• รับประทานอาหารเย็น
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก Blue Hotel Fagrilundur - On The Golden Circle หรือเทียบเท่า

---

Þingvellir อุทยานแห่งชาติที่เป็นหนึ่งในสามจุดหลักของเส้นทาง Golden Circle มีความสำคัญทั้งในด้านประวัติศาสตร์และธรณีวิทยา นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่สามารถมองเห็นรอยแยกระหว่างแผ่นเปลือกโลกอเมริกาเหนือและยูเรเชียได้อย่างชัดเจน

13 ตุลาคม 2568 (B // -- // --)

• ถ่ายภาพแสงเช้าบริเวณที่พัก และกลับมารับประทานอาหารเช้า

• ออกเดินทางสู่ Skogar พร้อมสำรวจสถานที่สำคัญระหว่างทาง

  • น้ำตก Bruarfoss ที่ได้ฉายาว่า "สร้อยคอสีฟ้าของไอซ์แลนด์"
  • น้ำพุร้อน Geysir สัมผัสพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
  • น้ำตก Gullfoss น้ำตกที่มีความสูง 32 เมตรและกว้าง 70 เมตร
  • น้ำตก Skogafoss น้ำตกที่มีความสูงประมาณ 60 เมตร ในวันที่แดดออก มักเห็นสายรุ้งพาดผ่านน้ำตก
• รับประทานอาหารกลางวัน
• เดินทางต่อไปยังน้ำตก Seljalandsfoss ความพิเศษที่คุณสามารถเดินลอดไปด้านหลังม่านน้ำได้
• รับประทานอาหารเย็น
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก UMI HOTEL หรือเทียบเท่า

---

Skogar หมู่บ้านเล็ก ๆ ริมถนนสาย Ring Road (Route 1) ล้อมรอบด้วยธรรมชาติอันงดงาม ทั้งภูเขา น้ำตก และทุ่งหญ้าเขียวขจี บรรยากาศเงียบสงบและเต็มไปด้วยเสน่ห์ของชนบทไอซ์แลนด์

---

Bruarfoss น้ำตกขนาดเล็ก บนเส้นทาง Golden Circle มีชื่อเสียงในด้านน้ำสีฟ้าสดใสที่ไหลผ่านช่องหินบะซอลต์เป็นสายยาวราวกับสะพานน้ำธรรมชาติ สะท้อนความงดงามของสีฟ้าน้ำแข็งที่ตัดกับหินสีเข้ม

---

Geysir น้ำพุร้อนขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในไอซ์แลนด์ เคยปะทุสูงถึง 70 เมตร แต่ปัจจุบันปะทุไม่สม่ำเสมอ บริเวณรอบ ๆ เต็มไปด้วยบ่อโคลนเดือดและบ่อน้ำร้อนที่ส่งไอน้ำขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง

---

Gullfoss น้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ เป็นหนึ่งในสามจุดหลักของเส้นทาง Golden Circle มีลักษณะเป็นน้ำตกสองชั้นไหลลดหลั่นลงมาในหุบเขาลึกประมาณ 32 เมตร จุดเด่นคือพลังน้ำที่ไหลเชี่ยวและรุ้งกินน้ำที่ปรากฏเมื่อแสงอาทิตย์ตกกระทบ

---

Skogafoss น้ำตกที่ยิ่งใหญ่และงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ มีความสูงประมาณ 60 เมตร และกว้างประมาณ 25 เมตร สายน้ำไหลลงมาจากหน้าผาหินอย่างทรงพลัง สร้างละอองน้ำที่กระจายทั่วบริเวณ ทำให้เกิด รุ้งกินน้ำเมื่อแสงแดดตกกระทบ จุดเด่นคือสามารถเดินขึ้นบันไดกว่า 500 ขั้น เพื่อชมวิวจากด้านบนได้

---

Seljalandsfoss อัญมณีแห่งฤดูหนาวของไอซ์แลนด์ใต้ Seljalandsfoss ตั้งตระหง่านเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์อันโดดเด่นของไอซ์แลนด์ น้ำตกอันงดงามนี้ตั้งอยู่บนเส้นทาง Southern Ring Road ทางตอนใต้ของประเทศ ในช่วงฤดูหนาว Seljalandsfoss แปรสภาพเป็นประติมากรรมน้ำแข็งธรรมชาติที่น่าทึ่ง น้ำตกสูง 60 เมตร นี้ไหลผ่านหน้าผาสูงชัน สร้างภาพที่น่าประทับใจท่ามกลางภูมิทัศน์ฤดูหนาวอันขาวโพลน เส้นทางเดินวงกลมที่โอบล้อมน้ำตก เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสมุมมองที่แตกต่าง รวมถึงโอกาสพิเศษในการเดินเข้าไปด้านหลังม่านน้ำแข็งและน้ำ (ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและความปลอดภัย)ในฤดูหนาว ทัศนียภาพรอบ Seljalandsfoss เปลี่ยนเป็นดินแดนน้ำแข็ง แทนที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี ภาพของน้ำตกท่ามกลางหิมะและน้ำแข็งสร้างความงามที่เป็นเอกลักษณ์ ดึงดูดช่างภาพและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

14 ตุลาคม 2568 (B // -- // --)

• รับประทานอาหารเช้า
• ออกเดินทางไป Black Sand Beach ชายหาดสีดำสนิทจากทรายภูเขาไฟ
• รับประทานอาหารกลางวัน
• เดินทางไปต่อกันที่ Jokulsarlon Glacier Lagoon อ่าวขนาดใหญ่ ที่มีก้อนน้ำแข็งจาก Glacier ลอยอยู่เต็มพื้นที่  
• ถ่ายภาพที่ Diamond Beach เอกลักษณ์ของที่นี่คือก้อนน้ำแข็งจาก Glacier ที่อยู่ตามแนวของชายหาดที่มีทรายสีดำ
• รับประทานอาหารเย็น
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย 

ที่พัก Fosshotel Glacier Lagoon หรือเทียบเท่า (ที่พักอยู่ห่างจาก Jokulsarlon เพียง 12 กิโลเมตร หากออกมาจากถ้ำน้ำแข็งช้าจนไม่มีแสง ทางเราจะพามาถ่ายรูปอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น)

•  ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น Jokulsarlon ได้

---

Black Sand Beach

ชายหาดสีดำอันโด่งดัง จุดเด่นของชายหาดนี้คือทรายสีดำสนิทที่เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาภูเขาไฟ พร้อมทั้งแท่งหินบะซอลต์ทรงหกเหลี่ยมที่เรียงตัวกันอย่างงดงาม นอกจากนี้ยังมีโขดหินทะเลรูปแท่งสูงชันที่เรียกว่า Reynisdrangar โผล่ขึ้นมาจากน้ำทะเลอย่างน่าเกรงขาม

---

Jokulsarlon Glacier Lagoon ทะเลสาบธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ เต็มไปด้วยภูเขาน้ำแข็งสีฟ้าและสีขาวที่แตกออกมาจากธารน้ำแข็ง Breiðamerkurjökull และลอยอยู่บนผิวน้ำอย่างงดงาม จุดเด่นคือน้ำแข็งขนาดมหึมาที่ลอยไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก ผ่านทางออกสู่ทะเล

---

Diamond Beach ชายหาดสีดำอันโด่งดัง จุดเด่นคือก้อนน้ำแข็งใสราวคริสตัลที่เกลื่อนกลาดอยู่บนผืนทรายสีดำ ซึ่งแตกออกมาจากธารน้ำแข็ง Breiðamerkurjökull แล้วถูกพัดลงทะเลสาบ ก่อนจะถูกคลื่นซัดขึ้นมาติดชายฝั่ง ดูเหมือนเพชรระยิบระยับวางอยู่บนผืนผ้าสีดำ

15 ตุลาคม 2568 (B // -- // --)

• รับประทานอาหารเช้า
• เก็บตกถ่ายภาพอีกครั้งที่ Diamond Beach หาดทรายดำที่เต็มไปด้วยเศษน้ำแข็งระยิบระยับ (หากเวลาเอื้ออำนวย)
• รับประทานอาหารกลางวัน
• Diamond Beach → Hofn → Vestrahorn ระยะทางรวมประมาณ 110 กิโลเมตร | ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 45 นาที
• เดินทางสู่เมือง Hofn จุดหมายปลายทางทางตะวันออกของทริป
• แวะจอดถ่ายรูปตามจุดชมวิวธรรมชาติระหว่างทาง จุดหมายของเราวันนี้คือ Vestrahorn ภูเขารูปทรงแปลกตา ทอดยาวคู่กับชายฝั่ง เป็นหนึ่งในจุดถ่ายภาพยอดนิยมของไอซ์แลนด์ โดยเฉพาะช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและตก
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก Hotel Jökull หรือเทียบเท่า

---

Vestrahorn

ภูเขาหินโดโลไมต์อันงดงาม มีความสูงประมาณ 454 เมตร โดดเด่นด้วยยอดเขาแหลมคมที่ตัดกับชายหาดสีดำ Stokksnes สร้างบรรยากาศดุดันและลึกลับ จุดเด่นคือภาพสะท้อนของภูเขาบนผิวน้ำตื้น ที่สร้างความงดงามราวกับกระจกเงา

16 ตุลาคม 2568 (B // -- // --)

• รับประทานอาหารเช้า 
• มุ่งหน้าเข้าสู่เมือง Vik ระยะทางประมาณ 290 กิโลเมตร | ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3.30 ชั่วโมง
• แวะเก็บภาพตามจุดน่าสนใจระหว่างทาง
• รับประทานอาหารกลางวัน
• พาทุกท่านชม Plane Wreck ซากเครื่องบิน Douglas DC-3 ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ตกบนชายหาดสีดำเมื่อปี 1973
• ถ่ายภาพกันที่ Vik Church โบสถ์สีขาวหลังคาแดงอันโดดเด่น
• รับประทานอาหารเย็น เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก Hotel Kria หรือเทียบเท่า

---

Plane Wreck ซากเครื่องบิน Douglas DC-3 ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ตกบนชายหาดสีดำ Sólheimasandur ทางตอนใต้ของไอซ์แลนด์เมื่อปี 1973 สร้างบรรยากาศลึกลับและโดดเด่น กลายเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายภาพยอดนิยม

---

Vik Church โบสถ์สีขาวหลังคาแดงอันโดดเด่น ถือเป็นแลนด์มาร์กที่โดดเด่นที่สุดของหมู่บ้าน เนื่องจากตั้งอยู่บนจุดสูงสุดทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเล Reynisfjara Beach และโขดหินทะเล Reynisdrangar ได้อย่างงดงาม

17 ตุลาคม 2568 (B // -- // --)

• รับประทานอาหารเช้า
• ออกเดินทางไปชม Katla Ice Cave
• รับประทานอาหารกลางวัน
• จากนั้นเดินทางต่อไปพักผ่อนและแช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon | ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง
• 17.00 ถึง Blue Lagoon สปาธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก
• จากนั้นมุ่งหน้าสู่ Reykjavik | ให้ท่านได้อิสระรับประทานอาหารเย็น และเดินเล่นช้อปปิ้ง
• เข้าที่พักและพักผ่อนตามอัธยาศัย

 

ที่พัก Konvin Hotel by Reykjavik Keflavik หรือเทียบเท่า

 

---

Katla Ice Cave ถ้ำน้ำแข็งที่ตั้งอยู่ใต้ธารน้ำแข็ง Mýrdalsjökull สามารถเข้าชมได้ตลอดปี ภายในถ้ำเต็มไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีฟ้าเข้มสลับดำจากเถ้าภูเขาไฟที่ทับถมกันเป็นชั้น ๆ สร้างลวดลายที่น่าทึ่งและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

---

Blue Lagoon สปาธรรมชาติที่มีชื่อเสียงระดับโลก น้ำในบ่อมีสีฟ้าน้ำนมอันเป็นเอกลักษณ์ เนื่องจากมีแร่ธาตุซิลิกาและสาหร่ายที่มีประโยชน์ต่อผิวหนัง อุณหภูมิน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 37–40°C

18 ตุลาคม 2568 (-- // -- // --)

• เตรียมตัวออกเดินทางไปยัง Keflavik Airport ในเช้าตรู่
• 06.20 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก (KEF) 
• มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (CPH) โดยสายการบิน Fly Play เที่ยวบินที่ OG900 (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. 15 นาที)
• 11.35 น.ถึง ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน (CPH) ผ่านด่านและรับกระเป๋า เช็คอิน พร้อมต่อเครื่องเดินทางกลับประเทศไทย
• 14.25 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน(CPH) มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG951 (ใช้เวลาเดินทาง 10 ชม. 35 นาที)

 

19 ตุลาคม 2568 

• 06.00 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

คลิกที่ชื่อโรงแรมเพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม

• Kirkjufell Guesthouse and Apartments (10-12ตค.)
• Blue Hotel Fagrilundur - On The Golden Circle (12-13ตค.)
• Umi Hotel (13-14ตค.)
• Fosshotel Glacier Lagoon (14-15ตค.)
• Hotel Jökull (15-16ตค.)
• Hótel Kría (16-17ตค.)
• Konvin Hotel by Reykjavik Keflavik (17-18ตค.)

เที่ยวบินระหว่างประเทศ: Thai Airways

• ลูกค้าสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ Official Website สายการบิน Thai Airways: https://www.thaiairways.com/en_TH/index.page

 

เที่ยวบินภายในประเทศ: Fly Play

• ลูกค้าสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ Official Website สายการบิน Flyplay: https://www.flyplay.com/

• สภาพอากาศเฉลี่ยที่ 2 / 9 องศา
• วันที่รวมอาหารมื้อเช้า จะแสดงไว้ด้านข้างของวันที่ในแต่ละวัน " (B // -- // --) "
• มื้ออาหารที่ไม่รวมในทริป ทางทีมงานจะพาเข้าร้านอาหาร และในบางสถานที่หากมีร้านอาหารหลายร้าน ลูกค้าสามารถแยกทานได้ แล้วนัดพบกับกรุ๊ปตามเวลาที่นัดหมาย
• ในการเดินทางของทริป เราจำกัดขนาดกระเป๋าเดินทางเนื่องจากในรถมีพื้นที่จำกัด ขอความร่วมมือทุกท่านพกกระเป๋าเดินทางขนาด ไม่เกิน 28 นิ้ว ต่อท่าน ท่านละ 1 ใบ และกระเป๋าถือขึ้นเครื่องแบบล้อลาก หรือพับได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง 1 ใบ

 วีซ่า

• ทางเราช่วยดำเนินการให้ (ฟรี)
• ค่าธรรมเนียมที่จ่ายกับสถานทูตประมาณ 5,000 - 6,000 บาท
• วันที่นัดหมายกับสถานทูต ทางเราจะมีวันคร่าวๆ ให้ลูกค้าเลือก และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลด้วยครับ

   ตั๋วเครื่องบิน

• จองไฟล์ทอื่นได้ แต่ต้องมาตามเวลานัดกับกรุ๊ป
• จองเอง, คอนเฟิร์มกับเจ้าหน้าที่ก่อนออกตั๋ว
• ให้เราจองให้: ค่าบริการ 300 บาท (ตัดบัตรเครดิตได้)

คลิกเพื่อดูโปรแกรมทริป (PDF)