ทุกการเดินทาง จุดหมายของเราคือ
“การมอบช่วงเวลาและความทรงจำที่ดีให้กับลูกค้าทุกคน”
-
Price
฿117900 / per person -
Included
ช่างภาพมืออาชีพ ถ่ายรูปให้ตลอดการเดินทางตั๋วเข้าชมพิพิธภัณฑ์ประกันการเดินทางรวมค่าที่พักรวมค่าเดินทางโดยรถ -
Not Included
กิจกรรมค่าวีซ่าค่าอาหารตั๋วเครื่องบิน
1
Day0: Suvarnabhumi Airport
6 กันยายน 2567
- 21.00 น. พบกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ พร้อมทีมงานคอยอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
2
Day1: Bangkok ✈ Copenhagen ✈ Reykjavík
7 กันยายน 2567 ( -- // -- // -- )
- 01.20 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน(CPH) โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG950 (ใช้เวลาเดินทาง 11 ชม 20 นาที)
- 07.40 น. ถึง ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน และรอต่อเครื่องไป ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก(KEF) (ใช้เวลาต่อเครื่อง 5 ชม 10 นาที )
- 12.30 น. มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก โดยสายการบิน Fly Play เที่ยวบินที่ OG901 (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม 20 นาที)
- 13.50 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก ประเทศไอซ์แลนด์
- นำท่านผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และทีมงานจัดการเรื่องการรับรถเช่า จากนั้นมุ่งสู่เมือง Grundarfjörður (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชม)
**ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือคู่กับภูเขา Kirkjufell ได้
**ที่พัก Kirkjufell Guesthouse and Apartments หรือเทียบเท่า (2คืน) - ลักษณะบ้าน มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และห้องทานข้าว ที่พักใกล้ภูเขารูปกรวยอันโด่งดัง
Kirkjufell
- เป็นภูเขาทางฝั่งตะวันตกของไอซ์แลนด์ (West Iceland) เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์อีกหนึ่งสิ่งของประเทศไอซ์แลนด์ภูเขาที่สูง 463 เมตร เป็นภูเขาที่ถูกถ่ายภาพมากที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ล้อมรอบไปด้วยวิวทิวทัศน์สุดอัศจรรย์ทั้งหาดทรายชายทะเล และน้ำตก ไม่ว่าจะมาเที่ยวที่นี่ในช่วงไหนก็มีความงดงามตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าหนาวที่จะมองเห็นภูเขา Kirkjufell ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาว ถ้าโชคดีก็จะได้เห็นท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงออโรร่าเป็นฉากอยู่เบื้องหลัง Kirkjufell เป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำ หนังซีรี่ย์ยอดฮิต อย่างเช่น Game of Thrones
3
Day2: Snæfellsnes Peninsula
8 กันยายน 2567 ( -- // -- // -- )
- วันนี้เราจะออกเดินทางไปที่ ถ่ายรูปที่โบสถ์ดำ Búðakirkja และ Arnarstapi เป็นที่ตั้งของกลุ่มหินรูปร่างแปลกตา Londrangar / แวะทานอาหารระหว่างทาง ช่วงบ่ายเดินทางไป Snæfellsjokull / โบสถ์ Ingjaldshólskirkja กลับเข้าที่พัก
**ในช่วงเวลากลางคืนหากฟ้าฝนเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือคู่กับภูเขา Kirkjufell ได้
4
Day3: Snæfellsnes Peninsula - Laugarvatn
9 กันยายน 2567 ( -- // -- // -- )
- ช่วงเช้าถ่ายภาพบริเวณ Kirkjufell ในช่วงแสงเช้าอีกครั้งหากสภาพอากาศเป็นใจ
- หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว ออกเดินทางไปยังบริเวณอุทยาน Pingvillir ขับรถเที่ยว แวะตามจุดที่หน้าสนใจต่างๆ จนมาถึงหมู่บ้าน Laugarvatn
**ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ
**ที่พัก Blue Hotel Fagrilundur หรือเทียบเท่า
5
Day4: Laugarvatn - Skogar
10 กันยายน 2567 ( B // -- // -- )
- ออกเดินทางต่อโดยผ่านสถานที่น่าสนใจหลายจุด อาทิเช่น น้ำพุร้อน Geysir, Gullfoss, Seljalandfoss ,Gljufrabui
- ถ่ายภาพแสงเย็นที่น้ำตก Skogarfoss
**ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่นน้ำตก Skogarfoss ได้
**ที่พัก Umi Hotel หรือเทียบเท่า
Geysir
- น้ำพุร้อน "กีย์เซอร์" เป็นน้ำพุร้อนธรรมชาติซึ่งมีความสูงของการพุ่ง 200 ฟุตจากพื้นดิน ทุกๆ 7-10นาที และพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้ำพุร้อน ช่วยให้อากาศอบอุ่นเย็นสบาย และรัฐบาลได้แปลงความร้อนให้เป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศ
Seljalandsfoss (น้ำตกเซลยาลันส์ฟอส)
- Seljalandsfoss เป็นน้ำตกตั้งอยู่ในภาคใต้ในประเทศไอซ์แลนด์ เป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่ภายในฟาร์ม Seljaland บนเส้นทาง Southern Ring Road ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นน้ำตกที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะทั้งยิ่งใหญ่และมีบรรยากาศโดยรอบที่น่าประทับใจสุด ๆ น้ำมากมายจะไหลผ่านหน้าผาสูงกว่า 60 เมตร ลงสู่พื้นด้านล่างอย่างสม่ำเสมอ มีทางเดินเล็ก ๆ ให้นักท่องเที่ยวเดินลัดเลาะเข้าไปที่หลังน้ำตก ซึ่งจะเห็นวิวของสายน้ำที่ไหลลงมากระทบพื้น พร้อมกับมีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่สีเขียวอยู่เบื้องหลัง เป็นภาพที่งดงามจนกลายไปเป็นภาพวอลเปเปอร์และอยู่บนปฏิทินหลายฉบับ
Skogarfoss
- "น้ำตกสโกกาฟอสส์” น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในไอซ์แลนด์ทางตอนใต้ของประเทศ เคยเป็นส่วนหนึ่งของหน้าผาของชายฝั่งทะเลในอดีต น้ำตก สโกกาฟอสส์ มีความสูงถึง 60 เมตรและกว้าง 25 เมตร มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเพราะน้ำตกนี้มาจากธารน้ำแข็งสองแห่งโดยตรง คือ Eyjafjallajökull และ Myrdalsjökull ตัวน้ำตกนั้นตั้งอยู่บนแม่น้ำสโกกา (Skógá) ที่ไหลผ่านที่ราบ ‘สโกการ์ซานดาร์’ และไหลต่อไปยังมหาสมุทรแอตแลนติก
6
Day5: Skogar - Jokursalon
11 กันยายน 2567 ( B // -- // -- )
- ออกเดินทางมาเก็บแสงเช้าบริเวณที่พัก จากนั้นออกเดินทางไป Jokursalon เพื่อเข้าชม Ice Cave ในวันนี้อีกหนึ่ง
highlight ของเราคือการเข้าไปเยี่ยมชมถ้ำน้ำแข็งที่จะมีเฉพาะในฤดูหนาว ระหว่างเดือน พฤษจิกายน - มีนาคม เท่านั้น (หากสภาพอากาศไม่เป็นใจ หรือ ถ้ำไม่พร้อมที่จะให้เข้าไป อาจจะไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ ทางเราจะทำการ refund เงินค่าเข้าให้กับทุกท่าน)
- หลังจากเข้าชม Ice Cave เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราจะเดินทางไปต่อกันที่ Jokulsarlon Glacier Lagoon อ่าวขนาดใหญ่ ที่มีก้อนน้ำแข็งจาก Glacier ลอยอยู่เต็มพื้นที่ และเที่ยวชมถ่ายภาพที่บริเวณ Diamond Beach เอกลักษณ์ของที่นี้คือจะมีก้อนน้ำแข็งจาก Glacier จำนวณมากอยู่ตามแนวของชายหาด สามารถถ่ายภาพเก็บแสงเย็นได้บริเวณนี้
**ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น Jokulsarlon ได้
**ที่พัก Fosshotel Glacier Lagoon (ที่พักอยู่ห่างจาก Jokulsarlon เพียง 12 กิโลเมตร หากออกมาจากถ้ำน้ำแข็งช้าจนไม่มีแสง ทางเราจะพามาถ่ายรูปอีกครั้งในเช้าวันรุ่งขึ้น)
Ice cave
- ถ้ำ "ICE CAVE" หรือที่นิยมเรียกกันว่า ถ้ำน้ำแข็งคริสตัล หรือ ถ้ำคริสตัล คือ ถ้ำน้ำแข็งที่สวยงามตระการตาในเมือง Skaftafell เป็นถ้ำที่เกิดในทะเลสาบแช่แข็งทะเลสาบที่เกิดจากธารน้ำแข็งสวีนาเฟลล์โจกุล (Svínafellsjökull Glacier) โดยถ้ำแห่งนี้มีปากถ้ำที่เป็นปล่องน้ำแข็งสูงประมาณ 22 ฟุต แต่เนื่องจากสภาพอุณหภูมิที่ค่อนข้างมีการเปลี่ยนแปลงบ่อย รูปแบบของถ้ำน้ำแข็งจึงไม่ค่อยแน่นอน และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
7
Day6: Jokursalon - Hofn
12 กันยายน 2567 ( B // -- // -- )
- ช่วงเช้าออกมาเก็บตกถ่ายภาพอีกครั้งที่ Diamond Beach และ Jokulsarlon
- เมื่อถ่ายเสร็จแล้วเดินทางต่อไปยัง Hofn ซึ่งถือว่าเป็นเมืองปลายทางทางด้านตะวันออกในทริปนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Vestrahorn ภูเขาสุดอลังที่วางตัวทอดยาวคู่กับชายฝั่งระหว่างทางสามารถจอดถ่ายรถได้ตลอดหากมีจุดที่น่าสนใจ
**ช่วงแสงเย็น - ดึก ออกมาเก็บภาพแสงเหนือคู่ Vesturhorn หากสภาพอากาศเป็นใจ
**ที่พัก Milk Factory หรือเทียบเท่า
Diamond Beach
- "หาดไดมอนด์" เป็นแถบทรายสีดำที่อยู่ในที่ราบน้ำแข็งเบรดาเมร์คูร์ซานดูร์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนบนชายฝั่งทางใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ที่หาดไดมอนด์ ภูเขาน้ำแข็งที่ปกคลุมทะเลสาบธารน้ำแข็งโจกุลซาลอนถูกชะล้างบนชายฝั่ง ทำให้เกิดความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับทรายสีดำจากภูเขาไฟ
8
Day7: Hofn - Vik
13 กันยายน 2567 ( B // -- // --)
- ช่วงเช้าหากสภาพอากาศเป็นใจเราจะออกเดินทางไปยัง Vestrahorn เพื่อถ่ายภาพกันอีกครั้ง
- หลังจากนั้นเดินทางกลับที่พักเพื่อรับประทานอาหารและพักผ่อน
- ช่วงสายออกเดินทางย้อนไปทางเดิมซึ่งปลายทางของเราในวันนี้คือกลับไปพักที่บริเวณเมือง Vik เพื่อเก็บตกจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจต่างๆ เช่น Fjaðrárgljúfur, Vik Church
**ในช่วงเวลากลางคืนหากสภาพอากาศเป็นใจ ทางคณะสามารถจะออกมารอเฝ้าชมแสงเหนือในบริเวณใกล้ๆ อย่างเช่น Vik Church / Vik's Beach หรือ Reynisdragar ได้
**ที่พัก Hótel Kría หรือ เทียบเทียบเท่า
Reynisdrangar
- เป็นที่ราบลุ่มที่ตั้งอยู่ใต้ภูเขา Reynisfjall ใกล้กับหมู่บ้าน Víkเขต Myrdalur ทางตอนใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ซึ่งล้อมรอบด้วยหาดทรายสีดำที่ติดอันดับ ในปี 2534 ว่าเป็น 1 ใน 10 ชายหาดสีดำที่สวยงามที่สุดในโลก หาดทรายสีดำอันเลื่องชื่อของไอซ์แลนด์นี้ มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Reynisfjara เป็นหาดทรายยาวจากหินภูเขาไฟ จึงมีสีดำสนิท บรรยากาศเงียบสงบ วิวทิวทัศน์สวยงาม โดยบริเวณหนึ่งที่เป็นแนวหน้าผาหินจะเห็นหินมีรูปร่างคล้ายกับแท่งหินห้าเหลี่ยมหกเหลี่ยมเรียงตัวลดหลั่นกันลงมาตามชายหาด ซึ่งเกิดจากการที่ลาวาอันร้อนระอุไหลมากระทบกับน้ำทะเลจนเย็นตัวลงนั่นเอง นอกจากความมหัศจรรย์ของธรรมชาติแล้ว เราก็ยังจะได้พบเห็นกับเจ้านกพัฟฟินสุดน่ารักมากมายในบริเวณนี้อีกด้วย Fjadrargljufur Canyon เป็นหุบเขาลึกทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศไอซ์แลนด์ ต้นกำเนิดของมันย้อนไปถึงช่วงเย็นของยุคน้ำแข็งราวสองล้านปีก่อน โดยหุบเขานี้ที่ เกิดจากแรงของน้ำและการไหลของธารน้ำแข็งผ่านหินนับพันปี ซึ่งทำให้เกิดความลึก 100 เมตร และยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใกล้กับถนนวงแหวนซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน
9
Day8: Vik - Reykjavik
14 กันยายน 2567 ( B // -- // -- )
- หลังจากทานมื้อเช้า ออกเดินทางเข้าเมือง Reykjavik โดยระหว่างทางแวะถ่ายรูปที่ Plane Wreck (นั่งรถเข้า)
- ก่อนจะออกเดินทางต่อ เมื่อถึง Reykjavik เยี่ยมชมและถ่ายภาพ landmark ต่างๆในเมืองเช่น Solfar (Sun Voyager) และโบสถ์ Hallgrímskirkja
- ตอนเย็นวันนี้ออกเดินทางต่อไปพักผ่อนแช่น้ำร้อนที่ Blue Lagoon
**พักที่ Konvin Hotel by Reykjavik Keflavik หรือเทียบเท่า
***หมายเหตุ เพื่อการจัดการที่ราบรื่น เมื่อทางทีมงานแวะส่งคณะที่ที่พักแล้ว ทางทีมงานจะนำรถไปคืนที่ Airport เพื่อเซฟเวลาการคืนรถในตอนเช้า ดังนั้นตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ทางเราจะใช้รถของทางที่พักเพื่อเดินทางไปสนามบิน***
10
Day9: Reykjavík ✈ Copenhagen ✈ Bangkok
15 กันยายน 2567
- 04.00 น. เตรียมตัวออกเดินทางไป ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก เพื่อเช็คอินสัมภาระ และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย
- 06.20 น. ออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานนานาชาติเคฟลาวิก(KEF) มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน(CPH) โดยสายการบิน Fly Play เที่ยวบินที่ OG900 (ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. 10 นาที)
- 11.30 น. ถึง ท่าอากาศยานโคเปนเฮเกน และรอต่อเครื่องไป ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ(BKK) (ใช้เวลาต่อเครื่อง 2 ชม. 55 นาที )
- 14.25 น. มุ่งหน้าสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Thai Airways เที่ยวบินที่ TG951 (ใช้เวลาเดินทาง 10 ชม 35 นาที)
11
Day10: Suvarnabhumi Airport
16 กันยายน 2567
- 06.00 น. ถึง ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจ
12
FLIGHT:
เที่ยวบินระหว่างประเทศ: Thai Airways
- ลูกค้าสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ Official Website สายการบิน Thai Airways: https://www.thaiairways.com/en_TH/index.page
เที่ยวบินภายในประเทศ: Play Airlines
- ลูกค้าสามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ที่ Official Website สายการบิน Play Airlines: https://www.flyplay.com/en?origin=ATH¤cy=USD
13
OTHER:
- สภาพอากาศเฉลี่ยที่ 6 - 12 องศา
- วันที่รวมอาหารมื้อเช้า จะแสดงไว้ด้านข้างของวันที่ในแต่ละวัน " (B // -- // --) "
- มื้ออาหารที่ไม่รวมในทริป ทางทีมงานจะพาเข้าร้านอาหาร และในบางสถานที่หากมีร้านอาหารหลายร้าน ลูกค้าสามารถแยกทานได้ แล้วนัดพบกับกรุ๊ปตามเวลาที่นัดหมาย
- ในการเดินทางของทริป เราจำกัดขนาดกระเป๋าเดินทางเนื่องจากในรถมีพื้นที่จำกัด ขอความร่วมมือทุกท่านพกกระเป๋าเดินทางขนาด ไม่เกิน 28 นิ้ว ต่อท่าน ท่านละ 1 ใบ
14
วีซ่าและตั๋วเครื่องบิน
วีซ่า
- วีซ่าทางเราจะช่วยดำเนินการให้ทั้งหมดครับ (ไม่มีค่าบริการ) และลูกค้าต้องไปยืนยันตัวกับสถานทูต
- ส่วนค่าธรรมเนียมสถานฑูตและศูนย์ยื่นวีซ่า vfs ที่ลูกค้าต้องชำระจะอยู่ที่ประมาณ 4,500 - 5,000 บาทครับ
- วันที่นัดหมายกับสถานทูต ทางเราจะมีวันคร่าวๆ ให้ลูกค้าเลือก และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลด้วยครับ
ตั๋วเครื่องบิน
- คุณลูกค้าสามารถจองไฟล์ทอื่นที่สะดวกได้ แต่ต้องมาเจอกับกรุ๊ปตามเวลานัดหมายครับ
- ลูกค้าท่านใดที่สะดวกจองเอง รบกวนคอนเฟิร์มกับเจ้าหน้าที่ก่อนออกตั๋วทุกครั้ง
- สำหรับคุณลูกค้าที่ไม่สะดวกจองเอง ตรงนี้จะมีค่าบริการเป็นจำนวน 300 บาทครับ (สามารถให้เจ้าหน้าที่ตัดบัตรเครดิตของคุณลูกค้าได้ครับ)
15
ลักษณะของทริป:
- การเดินทาง แบบ Road Trip ซึ่งนำทริปโดยช่างภาพมืออาชีพ ที่ทำหน้าที่ในการขับรถพาเที่ยวสถานที่ต่างๆ ถ่ายภาพให้กับลูกค้าทุกท่านตลอดการเดินทาง และ แนะนำการถ่ายภาพให้กับท่านที่สนใจ ข้อดีของการเดินทางแบบ Road Trip คือความสะดวกสบายในการจอดถ่ายรูป หรือแวะกินข้าว ซื้อของในร้านค้า และเป็นการเดินทางแบบกรุ๊ปเล็ก ทำให้บรรยากาศในทริปมีความเป็นกันเองเหมือนเพื่อนพาเที่ยว
- เวลา ปัญหาหลักของสถานที่ไม่ตรงปก คือ เรื่องของเวลา ทิศทางแสงที่ไม่เหมาะสม และเรามักเจอกับผู้คนที่พลุกพล่าน จึงไม่เหมือนกับภาพที่เห็นมาครับ ทำให้สถานที่เหล่านั้นดูสวยงามน้อยลงไป ด้วยเหตุผลนี้ รูปแบบโปรแกรมของเราจึงแตกต่างจากทัวร์ทั่วไป เราจัดทำโปรแกรมโดย ทีมช่างภาพที่มีประสบการณ์ และดูแลถ่ายภาพให้โดยช่างภาพมืออาชีพที่ผ่านการคัดเลือกแล้ว ทำให้เราอาจจะต้องตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปเก็บแสงเช้าในบางสถานที่เพื่อให้ได้ภาพที่ดี จึงจะใช้เวลาพักผ่อนจัดการภารกิจส่วนตัว ในช่วงหลังอาหารเช้า หรือ ในเวลากลางวันแทน แต่รับรองวันไหนที่ต้องออกไปถ่ายแสงเช้าจะคุ้มค่าที่ตื่นแน่นอนครับ :) โปรแกรมของเราจะไม่อัดแน่น จะเน้นสถานที่ มุมสวยๆ และปล่อยให้ลูกค้ามีเวลากันอย่างเต็มที่ จึงไม่เหมาะกับท่านที่ต้องการเก็บหลายสถานที่ในวันเดียวครับ ..
ราคา 117,900 บาท
มัดจำ 50,000 บาท
.***ส่วนที่เหลือชำระ 60 วัน ก่อนเดินทาง
.
ค่าบริการนี้รวม:
- ที่พัก 8 คืน และอาหารเช้าบางมื้อ
- ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถที่ใช้ในการเดินทางทั้งหมด
- ค่า Aurora Watching Tour พาทุกท่านออกล่าแสงเหนือในทุกคืนที่มีแสงเหนือ
- ค่าบริการสต๊าฟช่างภาพมืออาชีพ นำทริป ถ่ายภาพ และแต่งรูปส่งให้ลูกค้าทุกวัน
- ค่าประกันอุบัติเหตูการเดินทาง ท่านละไม่เกิน 2,000,000 บาทเงื่อนไขตามกรมธรรม์
- ค่าเข้าชม Ice Cave,
- ค่ารถเดินทางไปที่จุด Plane Wreck
- ค่าเข้า Blue Lagoon
ค่าบริการนี้ไม่รวม:
- ตั๋วเครื่องบิน
- ค่าอาหารกลางวัน และอาหารเย็น
- ค่าธรรมเนียมวีซ่า จากสถานทูตและ VFS
- ค่าตรวจ PCR Test ในกรณีที่สายการบินมีข้อกำหนดให้มีผลตรวจแสดง ณ จุดเช็คอิน (ถ้ามี)
- ค่าทิปพนักงานบริการ (ถ้ามี)
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ นอกเหนือที่ระบุไปเบื้องต้น เช่น ค่า SIM CARD ค่าเครื่องดื่ม มินิบาร์ ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด เป็นต้น
- อัตราค่าบริการดังกล่าวไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าน้ำหนักกระเป๋าเกิน ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากความเสียหายของตัวบุคคล และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากความล่าช้าของสายการบิน อุบัติเหตุ และสงคราม
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดการณ์